นทท.จีนเปลี่ยนพฤติกรรม เที่ยวในประเทศพุ่ง ท่องต่างแดนร่วง

(Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP)

ผ่านมาแล้ว 18 เดือน หลังทางการจีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์และหวนกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

แต่ดูเหมือนว่าการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนจะยังคงไม่กลับมาฟื้นตัวมากอย่างที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้

บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า มีชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 87 ล้านครั้งในปีที่แล้ว ลดลงจากปี 2019 ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึง 40% และจำนวนการเดินทางได้ชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นักเดินทางชาวจีนยังมีการจับจ่ายลดลง 24% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2019 อีกด้วย ตามข้อมูลด้านการเดินทางของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

แม้ว่าโดยรวมแล้วนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมารั้งตำแหน่งนักเดินทางที่จ่ายเงินมากที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปี 2023 หลังถูกแซงหน้าโดยนักท่องเที่ยวสหรัฐในปี 2022

และจำนวนเที่ยวบินในสนามบินจีนช่วงฤดูร้อนปีนี้ 8% เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นกว่าปี 2022 ที่เที่ยวบินระหว่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% เท่านั้น

แต่การฟื้นตัวเรื่องการท่องเที่ยวต่างแดนของชาวจีนก็ยังคงน้อยกว่าการหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ที่มียอดการเดินทางทำสถิติมากถึง 295 ล้านครั้งในช่วงวันหยุดยาว 5 วันในเนื่องในเทศกาลวันแรงงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2019 กว่า 20%

และการจองเที่ยวบินภายในประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 16% ในเดือนเดียวกันเมื่อเทียบกับในปี 2019 สวนทางกับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีการจองที่นั่งลดลง 30%

 

ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ลากยาวมานานหลายปี อัตราการว่างงานที่พุ่งสูง และเศรษฐกิจจีนที่มีภาพรวมไม่ดีนักที่ทำให้ชาวจีนต้องรัดเข็มขัดมากขึ้น

บวกกับเรื่องค่าเงินหยวนของจีนที่อ่อนค่าลง

และการยื่นขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปยังหลายประเทศในทวีปยุโรปที่ใช้เวลานานเกินไป

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวจีนหันมานิยมการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของ Oliver Wyman บริษัทให้คำปรึกษาสัญชาติสหรัฐระบุอีกว่า มีครอบครัวรายได้สูงชาวจีนเพียง 14% เท่านั้นที่เที่ยวต่างประเทศในปีที่แล้วและจะไปอีกครั้งในปีนี้ เพราะค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของชาวจีน 1 คนต่อการเที่ยวในประเทศ 1 ครั้งอยู่ที่ไม่ถึง 1,000 หยวน หรือ 5,000 บาท ถูกกว่าการเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงหรือญี่ปุ่นที่อาจใช้เงินหลายพันหยวน

อีกทั้งมณฑลต่างๆ ของจีนก็ยกระดับการโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวของตนเองผ่านโซเชียลมีเดียจีนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น

รายการโทรทัศน์หรือละครของจีนก็มีส่วนกระตุ้นการท่องเที่ยวในมณฑลต่างๆ ของจีนเช่นกัน และต้องไม่ลืมว่าจีนมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงและเที่ยวบินจำนวนมากที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเดินทางในประเทศง่ายและเร็วยิ่งขึ้น

แอชลีย์ ดูแดร์นอค ผู้ก่อตั้ง ChoZan บริษัทให้คำปรึกษาด้านดิจิทัลของจีนชี้ว่า การท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนในปีนี้จะแซงหน้าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนจะกลับมาฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งมาจากชาวจีนรู้สึกว่าโลกมีความบ้าคลั่งและไม่ปลอดภัยมากขึ้นกว่าในปี 2023

เช่นเดียวกับนายหลิว ซีมิน รองประธานของแผนกด้านการท่องเที่ยวของสถาบันวิจัย China Society for Futures Studies ที่คาดการณ์ว่า การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนอาจยังไม่กลับมาฟื้นตัวเทียบเท่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปอีก 5 ปี

 

การท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวในหลายประเทศ

แต่สำหรับไทยก็ยังมีข่าวดีพอให้ชื่นใจอยู่บ้าง เพราะบทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ระบุว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มมากขึ้นเป็นผลมาจากนโยบายวีซ่าฟรี

แต่ในระยะยาว ดูแดร์นอคให้ความเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวในต่างประเทศจะต้องยกระดับขึ้นจากเดิมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น มีโรงแรมที่ดีขึ้น และมีบริการด้านการเดินทางที่ดีเทียบเท่ากับจีน

เพราะการทำให้นักท่องเที่ยวจีนพอใจและเลือกที่จะมาเที่ยวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย