ปรับโฉม ‘ISUZU MU-X’ MY 2025 หน้าหล่อเข้มขึ้น-จัดออปชั่นมาเน้นๆ

สันติ จิรพรพนิต

แม้ภาพรวมตลาดปิกอัพแบละพีพีวี หรือปิกอัพดัดแปลง จะหดตัวอย่างหนักในช่วง 4 เดือนแรก

ยิ่งทำให้หลายค่ายต้องทยอยส่งแคมเปญเด็ดๆ รวมถึงเปิดตัวรถใหม่ทั้งไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ มากระตุ้นกำลังซื้อ

ล่าสุดเป็นคิวของ “อีซูซุ” ที่ได้ฤกษ์ปรับโฉมพีพีวีตัวขาย

“MU-X” กับสโลแกนใหม่ “THE NEXT PEAK” หรือ “จุดสูงสุดใหม่…กับชีวิตที่เหนือกว่า”

ทั้งยังเพิ่มรุ่นใหม่ขึ้นมากับการตกแต่ง RS หรือตัวแรง ตัวออปชั่นจัดเต็ม ของรุ่นนั่นเอง

ส่วนรุ่นอื่นๆ ประกอบด้วย Ultimate, Elegant และ Active

ฉบับนี้พาชมรุ่นท็อป RS

ที่ปรับอย่างชัดเจนไม่พ้นกระจังหน้าแบบ “Black Diamond Grille” ขนาดใหญ่ มีซี่ขวางบางลงและทำเป็นสีดำกลืนๆ กันไป

แปะสัญลักษณ์ RS สีดำ แต่มีกิมมิกแป้นสีด้านข้างเป็นสีเขียวมะนาว โดดเด่นทีเดียว

รุ่นท็อปมีสีใหม่ EIGER GRAY Opaque หลังคาดำ

ด้านหน้ามองผาดๆ ได้อารมณ์รถยุโรปอยู่เหมือนกัน

ชุดกันชนหน้าใหม่ Fighter Jet พร้อม Air Curtain เพิ่มอากาศพลศาสตร์ได้ดีขึ้น

ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade

ไฟหน้าแบบ Bi Beam แอลอีดี โปรเจ็กเตอร์ พร้อมระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)

ด้านบนเป็นไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ลักษณะคล้ายคิ้ว

ชุดไฟท้ายเดินด้วยเส้น Embrace Line ดูหรูหรามากขึ้น

กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยว ปรับพับระบบไฟฟ้า

ล้ออัลลอยลายใหม่ RS Design ขนาด 20 นิ้ว พร้อม Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS

ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam Protection เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

ภายในออกแบบใหม่ ให้ดูหรูหราและเพิ่มบรรยากาศมากขึ้น

โทนสีดำ ตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish

แต่มีเบาะสีเทาในรุ่นอื่นๆ ให้เลือกด้วย

เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตเดินด้ายสีเขียว และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ

มี Red Ambient Light

คอนโซลสีดำดี ตกแต่งด้วย Matte Silve

แซมบางจุดด้วยสี Piano Black และ Satin Silver

พวงมาลัย 3 ก้านแบบไฟฟ้า พร้อมระบบมัลติกฟังก์ชั่น

มาตรวัดแบบใหม่ Super Vision พร้อมจอ MID

ตรงกลางเป็นจอInfotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Apple CarPlay Android Auto และระบบ Wireless

มีระบบ Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชั่น

เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ แสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน แสดงองศามุมปีนไต่/ลาดเอียง

เบาะ 7 ที่นั่งใช้วัสดุ Cool Max ลดการสะสมความร้อน

เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง

เบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ

สะดวกมากขึ้นกับการเข้า-ออกที่นั่งแถว 3 ด้วยระบบ One Touch

มีปุ่มติดเครื่อง/ดับเครื่อง พร้อมออปชั่นสั่งสตาร์ตรถจากระยะไกล ผ่านสมาร์ตโฟน

ขุมพลังมีให้เลือก 2 บล็อกเหมือนเดิม เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์

ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร

และเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์

กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร

เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย

มีทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

รุ่นขับเลื่อน 4 ล้อพร้อมระบบ Professional 4WD ระบบ Terrain Command ลุยได้ทุกสภาพถนนด้วยระบบขับเคลื่อนที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ

พร้อมกับ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสม

ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone พร้อมคอยล์สริปง เหล็กกันโคลง และโช้กอัพแก๊ส

ด้านหลัง 5-Link Suspension เหล็กกันโคลง และโช้กอัพแก๊ส

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,885 x 4,860 x 1,875 ม.ม.

ฐานล็อ 2,855 ม.ม. ความสูงใต้ท้องรถ 235 ม.ม.

ความปลอดภัยและตัวช่วยต่างๆ จัดมาแบบเน้นๆ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS Generation ล่าสุด

เพิ่มเติมใหม่ 5 ระบบ กล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน

รุ่น RS มีกล้องรอบคัน 360 องศา Surround View Camera ให้ภาพคมชัดแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ

อื่นๆ เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)

ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)

ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) พร้อมระแบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop and GO ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control)

ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)

ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring)

ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking)

ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ฯลฯ

มี 6 สี ได้แก่ สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque), ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl), แดง เอทนา ไมก้า (Etna Mica)

ดำ บาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica), เงิน ไอซ์เบิร์ก ไมก้า (Iceberg Silver Mica) และเงิน โบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic)

MU-X แบ่งเป็น 4 รุ่นหลัก 7 รุ่นย่อย แตกต่างที่ขุมพลัง และระบบการขับขี่

สนนราคาเริ่มต้น 1,184,000-1,759,000 บาท

หากดูราคาเทียบกับคู่แข่งทั้ง “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” และ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์”

รุ่นเริ่มต้นจะถูกกว่า แต่ภาพรวมถือว่าราคาไม่หนีกันมาก •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]