ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2567 |
---|---|
ผู้เขียน | บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์ |
เผยแพร่ |
ปี 2503 ไทยมีนักท่องเที่ยว 81,340 คน เป็นยูโรเปี้ยนกับอเมริกัน แล้วพัฒนาสู่หมื่นแสนและล้านในปี 2516 ที่ 1,037,737 คน
ต่อมาได้มาเลเซียข้างบ้านปีละ 1 ล้านมาถลกโสร่งหาดใหญ่ ปีหนึ่งเกิดข่าว “ซูเปอร์โกโนเรีย” ระบาด แม่บ้านมาเลย์ยึดพาสปอร์ตสามีห้ามมาซุกซนชั่วคราว เมืองนี้เลยร้าง ต้องทำความเข้าใจว่าเป็นโรคสำส่อนธรรมด๊าธรรมดา เหตุการณ์ถึงคลี่คลายลงได้
ยามนั้นนอกจากมาเลเซียแล้วยังมีญี่ปุ่นทัวร์ไทย เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฉลุยจนญี่ปุ่นต้องแก้ขวยตั้งโปรเจ็กต์ “เท็นมิลเลียน โปรแกรม” หนุนคนออกเที่ยวปีละ 10 ล้านคนลดดุลความได้เปรียบ ไทยจึงมีคนแดนบูชิโดมาเที่ยวปีละแสนถึงล้าน
ส่วนจีน เกาหลียังไม่เห็นแววขณะนั้น
จู่ๆ ญี่ปุ่นเศรษฐกิจทรุด…ปี 2554 แผ่นดินไหวชายฝั่งแปซิฟิกด้านโทโฮคุ เป็นสึนามิทำลายบ้านเรือนใน จ.อิวาตะ สังเวยชีวิตไป 18,000 คน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูคุชิมาเสียหายยับเยิน
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-1.jpg)
ญี่ปุ่นซึ่งไม่เคยสนใจตลาดท่องเที่ยวถึงกลับลำ หันมาอัดแคมเปญ “สุโก้ยเจแปน” ส่งเสริมท่องเที่ยวแต่ปี 2555 เป็นต้นมา องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือ “เจเอ็นทีโอ” เผยผ่านหนังสือพิมพ์อาซาฮี มีต่างชาติไปเยือน 8.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.6% เป็นไทย 200,673 คน
ปี 2559 ไทยทัวร์ญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 908,702 คน ขณะญี่ปุ่นทัวร์ไทย 1.4 ล้านคน
ปีถัดไปญี่ปุ่นทัวร์ไทย 1.52 ล้านคน ส่วนไทยทัวร์ญี่ปุ่น 942,184 คน…พอปี 2562 โลกยังไม่รู้จักโควิด ต่างชาติไปทัวร์ญี่ปุ่น 31.88 ล้านคน เป็นไทย 1.31 ล้านคน มากอันดับ 6 รองเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สหรัฐ แต่นำโด่งกลุ่มอาเซียนด้วยยอดเกิน 1 ล้านคน
ปีนั้นไทยพีกมีต่างชาติ 39.7 ล้านคน ได้ญี่ปุ่น 1.8 ล้านคน ปี 2563 ญี่ปุ่นจัดกีฬาโอลิมปิกสู้กระแสโควิด จึงคุมเข้มต่างชาติเข้าประเทศ ตัวเลขถึงหายไป 99% อย่างน่าอนาถ
แต่ไทยยังพอมีญี่ปุ่นมาทัวร์ 3.2 แสนคน ใกล้เคียงไทยไปทัวร์ญี่ปุ่น 2.19 แสนคน ข้ามปีหลังไทยคิกออฟ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ฝ่ายญี่ปุ่นอั้นปิดประเทศไม่ไหวปล่อยคนในออกคนนอกเข้าตลาดไทยที่เห่อญี่ปุ่นเป็นทุนชวนกันไปแบบว่าเขื่อนแตก 3 พันคน แย่งจองตั๋วเครื่องบินไปกลับทั้งฝั่งสนามบินฮาเนดะ-นาริตะโตเกียว คันไซนอกฝั่งอ่าวโอซาก้าเต็มหมดทุกเที่ยวบิน
เล่นเอาซามูไรที่อยากเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กินแห้วเพราะหาที่นั่งเครื่องบินไม่ได้ ส้มเลยหล่นใส่เวียดนามชิงญี่ปุ่นไปทัวร์ฮาลองแทนภูเก็ต พังงา กระบี่ ดานังแทนพัทยา บางแสน ขายฮอยอัน แหล่งมรดกโลกกว๋างนามแทนอยุธยา
จึงเหลือญี่ปุ่นมาไทย 9,461 คนนะโยม!
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-2-e1719208259253.jpg)
ปี 2566 เจเอ็นทีโอบอกญี่ปุ่นมีต่างชาติ 25 ล้านคน ไทยไปลั้ลลาซากุระแบบ “โดน! โดน!” ญี่ปุ่นหมายถึง “มากขึ้น” 9.95 แสนคน เป็นครั้งแรกที่ไทยเสียดุลท่องเที่ยวให้ญี่ปุ่น ขณะญี่ปุ่นกลับหดตัวเหลือมาไทย 8 แสนคน น้อยกว่ากัน 1.95 แสนคน
เจเอ็นทีโอเผยมกราคมถึงเมษายนปีนี้คนไทยฉลองเงินเยนอ่อนตัว ไปทัวร์แดนปลาดิบแล้ว 4.66 แสนคน โตขึ้น 27% หรือ 91% เมื่อเทียบปี 2562 ก่อนถูกโควิดเล่นงาน
ส่วนผลสำรวจทัศนคติคนไทยนิยมทัวร์ญี่ปุ่น เมนต์สรุป 67% ไปผ่อนคลายที่เมาต์ฟูจิ จัดหนักฤดูซากุระบาน เซลฟี่ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซลโอซาก้า และถือโอกาสกินซูชิ ยากินิกุปิ้งย่างถึงถิ่น
41% ขาดเสียมิได้คือช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นและต่างประเทศปลอดภาษี ส่วนอีก 37% หาประสบการณ์ใหม่ๆ 26% เป็นอินเซนทีฟให้ตัวเอง และ 25% ชอบเที่ยวกึ่งผจญภัย
อีกประเด็นมั่นใจในระบบโลจิสติกส์เซฟตี้ต่อชีวิตทรัพย์สิน ปราศจากโจรผู้ร้ายชุกชุม ผู้คนไม่พกอาวุธ ปลอดคนบ้าคลั่งยาเสพติด และไร้ซึ่งนักเรียนนักเลงฆ่าขิงกันกลางพับลิกแอเรีย
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-3.jpg)
มีคอนเทนต์น่าสนใจสำหรับทัวร์ไทย คือนับแต่ปี 2534 ไทยซึ่งไม่มีหิมะ แต่ส่งช่างแกะสลักน้ำแข็งโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ไปแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติซัปโปโร เกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือญี่ปุ่น ติดทะเลรัสเซียเห็นเมืองวลาดิวอสตอก วันที่ฟ้าแจ่มใส
อดีตซัปโปโรเป็นชนบทเล็กๆ มีประชากร 5 ล้านคน เล่ากันว่าร้อยปีก่อนคือแหล่งอพยพซามูไรพ่ายสงคราม ไปอยู่รวมชนพื้นเมืองเผ่าไอนุปัจจุบันถูกกลืนเป็นชาวอาทิตย์อุทัยหมดแล้ว
อุณหภูมิที่นั่นหนาวเย็นติดลบ 20 องศาเซลเซียส หิมะคลุมตลอด 6 เดือน ฤดูร้อนเฉลี่ย 15 ถึง 30 องศาเซลเซียสสบายๆ น่าอยู่ สวนสาธารณะริมทางเต็มไปด้วยสีสันฟลอร่าละลานตา
เสน่ห์ที่นี่เคมีจะตรงกับก๊วนกอล์ฟญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่มักจองล่วงหน้าเป็นปีถึงจะได้คิวทีออฟ มิฉะนั้นต้องเป็นกลุ่มนีชมาร์เก็ตตลาดท่องเที่ยวเหินฟ้ามาออกรอบเมืองไทย เพราะไม่ต้องคอยคิวนาน โดน! โดน! แถมค่ากรีนฟีถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับเงินสกุลเยนญี่ปุ่น
ช่วงหนาวในซัปโปโรจะเริ่มปลายปีถึงต้นปีใหม่ มีหิมะขาวโพลนทุกหนแห่ง เด็กๆ ที่นั่นจึงน่าสงสาร ด้วยสนามเด็กเล่นหายไปกับกองหิมะ ต้องทนอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จนวันหนึ่งคิดหาทางออกขึ้นมาได้ โดยการใช้หิมะเป็นวัตถุดิบปั้นตุ๊กตุ่นตุ๊กตาแทนมันเสียเลย
ดราม่านี้เกิดปี ค.ศ.1950 หรือ พ.ศ.2493 พ่อแม่ผู้ปกครองปิ๊งไอเดียต่อยอดนวัตกรรมเป็นเทศกาลประติมากรรมหิมะ นำนักเรียนไฮสกูลมาปั้นผลิตชิ้นงาน 5-6 ชิ้นรับคนมาชม 5 พันคน
จากนั้นบรรดาผู้ประกอบการโรงแรม บริษัททัวร์ ร้านอาหารและผู้เกี่ยวข้อง มองว่าถ้าช่วยกันขับเคลื่อนให้คนมาเที่ยวทุกปี จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของตนแน่นอนถึงลงขันรับเป็นเจ้าภาพดันอีเวนต์รอผลตอบแทน โดยไม่กวนของบประมาณฝ่ายเมืองเหมือนบ้านเรา ที่ชอบอาศัยเงินภาษีโกยกำไรให้ตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าผิดระเบียบการเงินการคลังห้ามใช้เงินรัฐ…เว้นแต่กรณีรัฐร่วมลงทุน
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-4.jpg)
เทศกาลหิมะซัปโปโรระบุไทม์ไลน์จัดทุกต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปักหมุดไว้ที่สวนโอโดริกลางเมือง
ไฮไลต์คือการประกวดประติมากรรมหิมะจากศิลปินทั่วโลก 300 คณะ ซึ่งแต่ละชาติต้องยื่นโมเดลให้ดูว่าเป็นศิลปะบริสุทธิ์ไม่ส่อเสียดการเมือง ไม่ลามกอนาจารทำศีลธรรมเสื่อม
ทางฝ่ายผู้จัดจะหาวัตถุดิบคือก้อนหิมะให้ โดยไม่อนุญาตให้ชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมทีม แต่เป็นที่ปรึกษาสภาพอากาศได้ และมีวันเวลาให้สร้างงานถึง 4 วันก่อนตัดสิน
การเข้าร่วมกิจกรรมทุกปีของไทยตั้งแต่ปี 2534 หวังรางวัลที่จะได้สูงสุดคือจำนวนชาว โลก ซึ่งปีหนึ่งมาเที่ยวชมงานกว่า 2.6 ล้านคนได้รู้จักเมืองไทยมากขึ้น อันเป็นกลยุทธ์หนึ่งของการทำตลาดแต่ละปี…โหมดนี้จะว่าโม้ก็ได้ ที่เมืองไทยถึงไร้หิมะก็จริง ทว่า การนำเสนองานศิลปะนั้น มีเอกลักษณ์สวยงามละไมในเชิงช่างมาแต่ไหนแต่ไร จึงมักได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
บันทึกประวัติการร่วมแกะสลักหิมะไทยไม่เก๊ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้ว 9 ครั้งตั้งแต่ปี 2543 ด้วยภาพจำลองพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ ชีวิตชาวนาไทย ไก่ชน ปลากัด เต่าทะเล และอีกชิ้นศิลปะมวยไทยที่ปีนั้นอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง เป็นผลให้ข้อศอกนักมวยละลายผิดรูปต้องรีบแก้ไข…ทีแรกเรามีแววเข้าวิน แต่ที่สุดก็ได้แค่อันดับรอง เช่น ชุดบั้งไฟพญานาคปีนี้
เจเอ็นทีโอได้สรุปคนไทยไปเที่ยวชมงานซัปโปโรปี 2552 มี 6,300 คน ปี 2555 ขยับเป็น 37,000 คน ปี 2556 ญี่ปุ่นปล่อยผียกเว้นวีซ่าให้ 15 วัน เพิ่มเป็น 98,000 คน ล่าสุด 4 เดือนแรกปีนี้ไปออนทัวร์แดนซากุระแล้ว 4.66 แสนคน อนุมานว่า 30% คือ 1.66 แสนคน
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-5-scaled.jpg)
เมื่อเอ่ยถึงเทศกาลหิมะซัปโปโรที่ปังทุกปี ก็อยากชวนให้มองเทศกาลประเพณีแห่เทียนพรรษานานาชาติอุบลราชธานีบ้าง ปีนี้กำหนดจัด 17 ถึง 23 กรกฎาคม ในวาระครบ 119 ปี แห่งการสืบสานตำนานโบราณ ก่อนขึ้นสู่ระดับนานาชาติมากว่า 40 ปี เพื่อตอบโจทย์ท่องเที่ยวตามเจตนา ททท. แต่อดขำไม่ได้ที่ ททท.สำนักงานพื้นที่กลับตอบอะไรไม่ได้ – อ้างเหตุเกิดไม่ทัน?
ดีแต่ได้นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด เล่าให้ฟัง “แต่ละปีมีการประกวดต้นเทียนทั้งแบบติดพิมพ์และแกะสลัก แข่งขันกันด้วยเงินลงทุนต้นเทียนแต่ละต้นมูลค่าสูงเกิน 1 ล้านบาท มากกว่าเงินรางวัลที่จะได้รับแค่หมื่นแสนบาท แต่ผลที่ได้รับถือว่ามีค่ามหาศาลจากผู้คนทั่วสารทิศมาร่วมงานปีละ 2.5 แสนคน สร้างกระแสเงินสะพัดร่วม 300 ล้านบาท”
รองผู้ว่าการบอกอีกว่า “โรงแรมที่อุบลราชธานีทั้งในเมือง และต่างอำเภอริมโขงเฉียด 5 พันห้องถูกจองเต็มล่วงหน้า ล้นไปถึงจังหวัดใกล้เคียง เช่น ยโสธร มุกดาหารและศรีสะเกษ”
มีเมนต์น่าเสียดายที่ว่าความสูญเปล่าได้เกิดขึ้นช่วงเทศกาล เมื่อทุกปีที่ ททท.ผนวก “เทศกาลแกะสลักเทียนนานาชาติ”ไว้ด้วยกัน โดยเชิญประติมากรต่างชาติมาร่วมงานปีละ 10 ประเทศ ภายใต้เงื่อนไขคล้ายเทศกาลหิมะซัปโปโร แถมมีดนตรีวงซิมโฟนีบิ้วให้โรมานซ์
กิจกรรมนี้เริ่มปี 2549 ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ปีถัดมาย้ายไปห้าใหญ่กลางเมืองไปลงตัวที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติท้องถิ่น ไม่ยักใช้ทุ่งศรีเมืองที่แสดงต้นเทียนพรรษามีคนชมมาก
ที่ไม่เหมือนโมเดลซัปโปโร คือหลบซ่อนในหลืบหลังอัฒจันทร์ชมงานแห่เทียนหน้าอารามหลวงยากที่ผู้สนใจจะรู้ นอกจากนักเรียนนักศึกษาที่ถูกครูวางให้มาทำรายงานเก็บคะแนน
และที่น่ารังเกียจสุดฉ่ำ…ก็ตรงมีนักการเมืองมากบารมีแต่ไร้คุณธรรม แอบโยกงบฯ ที่เตรียมไว้สนับสนุนไปสร้างส้วมสาธารณะในพื้นที่ตนแทน สมควรประณามในความอัปยศที่ทำให้เทศกาลช่วงบุญใหญ่เข้าพรรษาอุบลราชธานี มีอันต้องยุติไปนับแต่ปี 2559 จนกระทั่งบัดนี้!
ขณะเทศกาลหิมะซัปโปโรมีแต่เดินหน้าอย่างงดงาม ได้ศิลปินเมืองไทยไร้หิมะร่วมสร้างสีสันทุกปี โดยไร้เงามนุษย์แฝงทำลายบรรยายกาศ เช่น เทศกาลแกะสลักเทียนนานาชาติบ้านเรา?
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-6.jpg)
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-7.jpg)
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-8.jpg)
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-9.jpg)
![](https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2024/06/น.26-10.jpg)
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022