“แพทองธาร” ชู 3 ยุทธศาสตร์ ตั้งเป้า ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท เชื่อเป็นรากฐานสำคัญเศรษฐกิจไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า

“แพทองธาร” ชู 3 ยุทธศาสตร์ ตั้งเป้า ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท เชื่อเป็นรากฐานสำคัญเศรษฐกิจไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า

เมื่อเวลา 11.20 วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2024 หัวข้อ “นโยบายการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย” ว่า การจัดงานนี้เป็นจุดเริ่มสำคัญของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความฝัน และโอกาสที่จะปลดปล่อยพลังของคนไทยให้กระจายไปทั่วโลก

ตลอด 3 วันของการจัดงาน จะได้พบกับการแสดงวิสัยทัศน์ การแบ่งปันเรื่องราวจากตัวจริงของแต่ละภาคอุตสาหกรรม ทั้งในไทยและต่างประเทศ นิทรรศการนโยบายที่จะบอกเล่าเรื่องราวการทำงาน การทำเวิร์กช็อปมาให้เรียนรู้ และเป็นครั้งแรกที่จะเปิดให้มีการลงทะเบียน “โครงการหนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS)” เพื่อยกระดับศักยภาพของตัวเองภายในงานนี้

นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เริ่มต้นมา 9 เดือน แต่ภารกิจนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย คือ นโยบาย OTOP หรือหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เพราะเชื่อว่าภูมิปัญญา วัฒนธรรมไทย และศักยภาพคนไทย มีมูลค่าสูง สามารถดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก

ซึ่งสนับสนุนพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานรากของประชาชน 7,000 ตำบลทั่วประเทศ มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับประเทศ และสร้างมูลค่าต่อเนื่องมาจากปี 2545 จนถึงวันนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย เพราะขาดจิ๊กซอว์ที่จะทำให้ซอฟต์พาวเวอร์สมบูรณ์

ครั้งนี้เราคิดใหญ่ ตั้งเป้าหมายใหญ่ว่าซอฟต์พาวเวอร์จะต้องสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท ยกระดับชีวิตคนไทยทุกครอบครัว ให้มีรายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนบาทต่อปี สร้างแรงงานทักษะสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 20 ล้านตำแหน่ง จะต้องมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 1 แสนแห่ง

ยิมมวยไทยทั่วโลกจะต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20,000 แห่ง หนังสือจากคนไทยจะต้องได้รับการแปลในหลายภาษาอย่างเป็นระบบ หมอลำ TPOP นักร้องลูกทุ่ง จะได้มีพื้นที่ในเวทีคอนเสิร์ตระดับนานาชาติ มีแฟนเพลงทั่วโลก เทศกาลของประเทศไทยจะต้องได้รับ IP Festival

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราจะไปถึงเป้าหมายทั้งหมดนี้ได้อย่างไร จะต้องสร้าง Ecosystem ให้ยั่งยืนด้วย 3 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ 1.นโยบายการพัฒนาศักยภาพคน นโยบาย OFOS หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ คือ การทบทวนทักษะ และยกระดับทักษะครั้งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ เราจะยกระดับทักษะของคนไทย ยกระดับรายได้ เติมแรงงานที่เก่งเข้ามาในระบบเพื่อทำให้เกิดการพัฒนา

2.นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม คือการตั้ง THACCA Thailand Creative Culture Agency หน่วยงานกลางที่จะเป็นผู้กำหนดนโยบาย รวบรวมงบประมาณไม่ให้กระจัดกระจาย แก้ไขปัญหากฎหมายที่ติดขัดในอุตสาหกรรม ความพิเศษของ THACCA คือการสร้างกลไกให้ภาคเอกชนในแต่ละอุตสาหกรรมเป็นผู้นำภาครัฐเป็นครั้งแรก

3.นโยบายต่างประเทศ หลักสำคัญ คือ เราจะส่งออกสิ่งที่แต่ละประเทศต้องการ เราได้ทำงานร่วมกับคณะทูตไทยทั่วโลกและทูตพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มอบนโยบายนี้เพื่อจับคู่สิ่งที่เรามีกับสิ่งที่ในแต่ละประเทศต้องการ เพื่อขยายโอกาสให้คนไทย

“ซอฟต์พาวเวอร์ที่เราทำในวันนี้ อาจผลิดอกออกผลอย่างเต็มที่ในอีก 10 ปีข้างหน้า ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ต้องทำด้วยกลไกใหม่ให้เกิดขึ้นจริงเท่านั้น รัฐบาลนี้เริ่มทำแล้ว และทำอย่างจริงจังมากที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์ และนโยบายนี้จะเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอีกหลายสิบปีข้างหน้า” น.ส.แพทองธาร กล่าว