อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา วางมาตรการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ สงขลาเน้นย้ำพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งสายด่วน 1567

อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา วางมาตรการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ สงขลาเน้นย้ำพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งสายด่วน 1567 ทันทีได้ตลอด 24 ชม.

วันนี้ (24 มิ.ย.67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึง การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ว่าในบริเวณพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีการจำหน่ายน้ำมันที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย (น้ำมันเถื่อน) บริเวณใจกลางเมืองสะเดา และบริเวณริมถนนขาเข้าและขาออก บริเวณบ้านจังโหลน ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งมีการวางจำหน่ายตั้งแต่บริเวณพื้นที่ตำบลปริก ตำบลสะเดา และตำบลสำนักขาม ลักษณะการวางจำหน่ายจะมีการตั้งเป็นแบบขวดขนาด 1 ลิตร และแกลลอนขนาด 10 ลิตร บรรจุน้ำมันที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ทั้งเบนซิน 97 และน้ำมันดีเซล(โซล่า) มีการจำหน่ายให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไป – มา ณ บริเวณดังกล่าว

“อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรสะเดา, สถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์, สถานีตำรวจภูธรคลองแงะ เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5, กองร้อยทหารราบที่ 5021 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา สาขาสะเดา เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติการวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา” นายสมนึกฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางการปฏิบัติการวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ที่ประชุมที่มี การพูดคุยปรึกษาหารือ ร่วมกันคิด ร่วมกันระดมสมองจนเป็น มาตรการการจำหน่ายน้ำมันที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย (น้ำมันเถื่อน) ดังนี้ 1) การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด (POP UP) ทั้งประจำจุด และไม่ประจำจุด ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) จากประเทศเพื่อนบ้านที่มีราคาถูกกว่าภายในประเทศเข้ามาจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2) การสืบสวนหาข่าวของขบวนการ หรือกลุ่มนายทุนที่พยายามมีการลักลอบนำเข้าน้ำมันมาตามช่องทางต่างๆ เช่นใช้รถบรรทุก หรือรถยนต์ส่วนบุคคลในการลักลอบนำเข้าน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ทั้งทางช่องธรรมชาติ หรือทางด่านศุลกากรสะเดา และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ 3) การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ที่จะลักลอบจำหน่ายน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ทุกราย โดยเฉพาะที่มีการลักลอบจำหน่ายบริเวณทางเท้า หรือบริเวณ 2 ข้างถนน และร้านค้าโดยทั่วไป 4) ให้ทุกหน่วยงานรายงานผลการปฏิบัติการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการอำเภอสะเดา เป็นประจำทุกเดือน และรายงานให้อำเภอสะเดาทราบ

นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ในห้วงเวลา 3 เดือนที่ผ่าน จากการบูรณาการร่วมทุกหน่วยงานในพื้นที่อำเภอสะเดา มีผลการปฏิบัติ พบว่าในห้วงเดือน ประจำเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม 2567 มีสถิติในการจับกุมน้ำมันเถื่อน ได้ 132 คดี ได้ค่าปรับจำนวน 4,211,771.20 บาท โดยปริมาณน้ำมันดีเซล(ของกลาง) จำนวน 103,646 ลิตร และปริมาณน้ำมันเบนซิน(ของกลาง) จำนวน 8,200 ลิตร

“จังหวัดสงขลา มุ่งมั่นจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและแก้ไขปัญหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ตามนโยบายเร่งด่วน (Quick win) ของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มุ่งขจัดยาเสพติดและ สิ่งผิดกฎหมายให้หมดไป ด้วยการมุ่งเป้า Re X-Ray พื้นที่เป้าหมายสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหาน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีการใช้น้ำมันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ตามที่รัฐกำหนด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และผลกระทบทางอ้อมซึ่งอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพ อนามัย และก่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เสียภาษีที่ถูกต้อง ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองยกระดับความเข้มข้นในการลาดตระเวน ซึ่งจังหวัดสงขลาได้บูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อเพิ่มความเข้มข้นเสาะหาสิ่งผิดกฎหมายที่อาจถูกซุกซ่อนอยู่ พร้อมขยายผลนำไปสู่การตัดวงจรของสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท เพื่อให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย เกิดสวัสดิภาพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เป็นสังคมที่น่าอยู่“ นายสมนึกฯ กล่าวทิ้งท้าย

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข