ปลัดกระทรวงมหาดไทยเปิดโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ปีที่ 7 ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เน้นย้ำ จังหวัดลำปาง ร่วมกับ อบต.แม่ถอด จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานจิตอาสาคืนธรรมชาติสู่ธรรม

ปลัดกระทรวงมหาดไทยเปิดโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ปีที่ 7 ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เน้นย้ำ จังหวัดลำปาง ร่วมกับ อบต.แม่ถอด จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานจิตอาสาคืนธรรมชาติสู่ธรรม” เพื่อเสริมสร้างพลังการมีส่วนร่วมเพื่อความยั่งยืนของโลกใบเดียวนี้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน

วันนี้ (30 มิ.ย. 67) เวลา 09.30 น. ที่วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ ตำบลแม่ถอด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง พระเทพวัชรเมธี ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย รองเจ้าคณะภาค 6 – 7 (ธ) ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ปีที่ 7 ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และถวายเป็นพระกุศล เนื่องในโอกาสพระชนมายุ 97 พรรษา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 26 มิถุนายน 2567 โดยมี นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ รศ.ดร.สุพรรณี ฉายะบุตร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายนิกร ศิรโรจนานนท์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 13 อำเภอในพื้นที่ นางสาวตวง​รัตน์​ โล่ห์​สุนทร​ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี นำโดย คุณอัศวิน – คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล นางจิตรี จิวะสันติการ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสา และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดลำปางและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และถวายธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวคำถวายผ้าป่าสามัคคี เป็นเงิน 1,403,025 บาท เพื่อสมทบโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้ร่วมพิธีร่วมถวายจตุปัจจัยและเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา พระเทพวัชรเมธี กล่าวสัมโมทนียกถา จบแล้ว กรวดน้ำ รับพร และมอบพันธุ์กล้าไม้ให้กับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ยางนา รวงผึ้ง ชัยพฤกษ์ พะยูง และถุงเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ประชาชน นายนิกร ศิรโรจนานนท์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ ถวายหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อาบ เนื้อที่ 253 ไร่ 29 ตารางวา ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2597 รวม 30 ปี เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศ เพื่อความยั่งยืน และทำพิธีมอบเสาเข็ม 258 ต้น ให้แก่เจ้าหน้าที่นำไปปักเขต โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้ร่วมเดินเยี่ยมชมนิทรรศการพระประวัติและพระกรณียกิจ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และนำประชาชนปลูกพันธุ์ไม้บริเวณฝายน้ำล้น เป็นอันเสร็จกิจกรรม

พระเทพวัชรเมธี กล่าวสัมโมทนียกถา ความโดยสังเขปว่า วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าซึ่งพวกเราทุกคนได้ร่วมกันอุปถัมภ์ปรับปรุงให้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้มาเจริญธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรม ต่อมาได้พัฒนาขึ้นยกเป็นวัดเพื่อดูแลรักษา มีหลวงพ่อพระครูวิมลคณาภรณ์ (รวย กลฺยาโณ) เป็นอดีตเจ้าอาวาสรูปแรก และเกิดความเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ อาตมภาพได้มาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส ก็พยายามดูแลรักษาในความเป็นสัปปายะ ธรรมนียสถาน ซึ่งวันนี้ครบ 7 ปีที่เราได้ทำกันมา จนเห็นเป็นประจักษ์ถึงความร่มเย็นและความเป็นธรรมนียสถาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และถวายเป็นพระกุศล เนื่องในโอกาสพระชนมายุ 97 พรรษา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 26 มิถุนายน 2567 และเพื่อความสุขของพวกเราทุกคน ดังนั้น ในนามวัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ ขออนุโมทนาสาธุการกับทุกคนที่ได้ร่วมกันเป็นกำลังแต่ละเล็กละน้อยตามกำลังศรัทธา เป็นกำลังอันเกิดขึ้นแล้วกับพวกเราทั้งหลาย และขอให้ผลบุญทั้งหลายที่เราได้น้อมนำถงานเป็นพระราชกุศลและเป็นพระกุศลก็ดี เป็นปฏิพรย้อนกลับให้พวกเราทั้งหลาย จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ คิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันเป็นประโยชน์ อันประกอบด้วยธรรม ขอสิ่งนั้น ๆ จงสำเร็จ ดังความมุ่งมาดปรารถนา จงทุกประการเทอญ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ขอร่วมอนุโมทนากับสาธุชนผู้ที่ให้เกียรติร่วมบุญที่วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณ คุณอัศวิน – คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ที่จัดถุงยังชีพ ประกอบด้วย เครื่องอุปโภคบริโภค มอบให้กับพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่ โดยพวกเราทุกคนยังคงสามารถช่วยกันสนับสนุนปัจจัยทุนทรัพย์ เพื่อส่งเสริมการทำความดีเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ในวันนี้ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย มีภารกิจเป็นตัวแทนพวกเราทุกคนในการหารือร่วมกับผู้แทน World Childhood Foundation ในสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ภายหลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วย สมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน เสด็จพระราชดำเนินเข้าร่วมและพระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุมสุดยอดการคุ้มครองเด็ก “Child Protection Summit, Bangkok 2024” เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 ณ สำนักงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ทั้งนี้ พระองค์ทรงมีพระราชปณิธานให้พวกเราคนไทยได้ช่วยกันกำหนดแนวทางการดูแลและคุ้มครองเด็กไทยไม่ให้ถูกกระทำความรุนแรงทั้งทางเพศ และการใช้แรงงาน ซึ่งในระดับพื้นที่ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้นำบูรณาการทุกภาคส่วนช่วยกันดูแล ด้วยการสื่อสารเชิงรุกเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้คนในสังคมไม่ให้เพิกเฉย โดยหากเห็นการกระทำผิด ต้องแจ้งสายด่วน 1567 หรือ 191 อันถือเป็นงานกุศลอีกงานหนึ่ง ซึ่งต้องขอความเมตตาพระสังฆาธิการและพระเถรานุเถระทุกรูป ได้ร่วมเผยแพร่เรื่องนี้ควบคู่กับการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนตามพระพุทธศาสนา สอดคล้องกับศีล 5 ข้อที่ 1 ปาณาติปาตา เวรมณี อันหมายความว่า งดเว้นจากการฆ่า การเบียดเบียน การทำร้ายร่างกายเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ และมีจิตใจประกอบด้วยเมตตากรุณา มีความปรารถนาดี และสงสารเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ รวมถึงสัตว์ทั้งหลาย

“งานในวันนี้ เป็นปีที่ 7 ของการดำเนินโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ที่ไม่เป็นเพียงแค่การมาร่วมกิจกรรมทอดผ้าป่าและปลูกป่าแค่วันเดียว แต่เป็นวันที่เราได้ร่วมกันแสดงออกซึ่งการสนับสนุนการคืนธรรมชาติสู่ธรรมตามที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงอุปถัมภ์ ริเริ่ม ผลักดัน ขับเคลื่อน ด้วยการ “ประกาศจุดยืน ทบทวน และร่วมทำความดี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และถวายเป็นพระกุศล เนื่องในโอกาสพระชนมายุ 97 พรรษา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 26 มิถุนายน 2567 ซึ่งพวกเราโชคดีที่มีท่านเจ้าคุณพระเทพวัชรเมธี เป็นเสาหลักสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข สร้างสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม และพระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการทำให้พื้นที่วัดเป็นสัปปายสถานของพุทธศาสนิกชน นอกจากนี้ ขออนุโมทนากรมป่าไม้ ที่ได้ร่วมสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ปีที่ 7 และได้ถวายพื้นที่ที่มีอาณาบริเวณติดต่อกับพื้นที่วัดเดิมเพิ่มขึ้นอีก 253 ไร่ อันมีความหมายว่า ปีนี้นอกจากเป็นปีมหามงคลแล้ว เรายังจะมีพื้นที่ทำความดีเพิ่มขึ้น รวม 2,000 ไร่ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ภายใต้การสนับสนุนของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะร่วมกันน้อมนำขยายผลสิ่งที่ดีนี้อย่างต่อเนื่อง” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำว่า พื้นที่วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์แห่งนี้ สามารถรองรับจิตอาสาทั้งในพื้นที่จังหวัดลำปาง และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อร่วมกันสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระปณิธานของเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และนายอำเภอเถิน ได้ร่วมกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอด จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานจิตอาสาคืนธรรมชาติสู่ธรรม” และจัดระบบการทำกิจกรรมจิตอาสาคืนธรรมชาติสู่ธรรม อาทิ โปรแกรมปลูกป่า อาหารการกิน เส้นทางการเดินปลูกป่า พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ประสานงาน มีช่องทางติดต่อ ทั้งสายด่วน และอีเมล หรือแอปพลิเคชั่น ตามที่เห็นสมควร เพื่อจะได้ทำให้เกิดพลังการมีส่วนร่วมของคนไทยและชาวต่างชาติ ที่ต่างมีจุดมุ่งหมายในการร่วมกันสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบเดียวนี้ของพวกเราทุกคน ควบคู่กับการทัศนศึกษา เรียนรู้ และท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากดำเนินการแล้ว ขอให้ได้จัดการแถลงข่าว เพื่อจะได้เกิดประโยชน์ด้านการสร้างความรับรู้เข้าใจอย่างกว้างขวาง และขณะเดียวกัน การทำกิจกรรมจิตอาสา ต้องทำอย่างครบถ้วนทั่วพื้นที่ เช่น ป้ายบอกทาง หรือถนนหนทางที่ 2 ข้างทางไม่เรียบร้อย เราผู้เป็นเจ้าบ้าน เป็นคนในพื้นที่ต้องช่วยกัน “แก้ไขในสิ่งผิด” ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณควบคู่กัน ด้วยการทำความสะอาด ปรับปรุง และมีการน้อมนำพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” ซึ่งต้องทำอย่างบ่อย ๆ และทั่วถึง จึงขอให้ได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าวและทุกช่องทาง และพูดคุย วางแผน ร่วมกับนายอำเภอ และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอด รวมตัวกันดูแลพื้นที่ส่วนรวม เฉกเช่นตัวอย่างที่คนทั้งโลกได้เห็น คือ ร้อยตำรวจตรี วิชัย สุริยุทธ (ดาบวิชัย) ผู้ปลูกต้นไม้มากกว่าสองล้านต้นในอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่แม้ว่าปัจจุบันท่านจะเสียชีวิตไปแล้วด้วยวัยชรา แต่สิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมออกผลงอกงามถึงทุกวันนี้

“สำหรับการจัดโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ปีที่ 8 ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ปี 2568 กราบขอความเมตตาท่านเจ้าคุณพระเทพวัชรเมธี และคณะสงฆ์ ได้เมตตาผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และสาธุชน พิจารณาพันธุ์ไม้ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยการเติมความสมบูรณ์ของไม้ที่เป็นอาหารและยาเพิ่มขึ้น เพราะพระองค์สอนว่า ธรรมชาติเรามีต้นไม้ 5 ระดับ ได้แก่ ไม้สูง กลาง ต่ำเตี้ย เรี่ยดิน ใต้ดิน หรือไม้ 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง คือ 1) เป็นอาหารและยา รักษาโรค ป้องกันโรค 2) ไม้ใช้สอย ทำโต๊ะ เตียง เก้าอี้ เชื้อเพลิง 3) ไม้สร้างที่อยู่อาศัย และ 4) ทำให้โลกร่มเย็นเป็นสุข ลดโลกร้อน ดินฟ้าอากาศฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องร่วมสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมลงมือทำ และร่วมรับประโยชน์ เพื่อทำให้ประเทศชาติมั่นคง ทำให้โลกใบเดียวของเรามั่นคง ซึ่งประเทศจะมั่นคงได้ “ธรรมชาติต้องมีสมดุล” เพื่อประชาชนมีความสุข ทั้งสุขกาย สุขใจ ในสถานที่ร่มรื่น มีศาสนสถานเสริมสร้างพลังใจ พร้อมส่งเสริมลูกหลานให้เกรงกลัวต่อบาป ด้วยการหมั่นเพียรทำความดี ดังเช่นโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ที่ทุกคนมาด้วยใจ มาด้วยความเต็มใจที่จะมาทำให้เกิดความยั่งยืนตลอดไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย